"ผู้สูงอายุ" หรือ “วัยชรา”.
วัยชราหมายถึงวัยใกล้หมดอายุขัยของมนุษย์ ดังนั้นจึงเป็นจุดสิ้นสุดของวงจรชีวิตมนุษย์
เป็นช่วงชีวิตหลังวัยหนุ่มสาวและวัยกลาคน
โดยปกติจะมีการอ้างถึงภาวะเสื่อมชราภาพ
คนอายุมากมักมีความสามารถในการฟื้นฟู
ส่วนที่สึกหรอภายในร่างกายได้น้อยและมีความอ่อนแอต่อโรค, อาการบาดเจ็บและความเจ็บป่วยมากกว่าคนที่อายุน้อยกว่า และคนคนหนึ่งจะมีอายุขัยยาวหรือสั้นเมื่อถึงวัยสูงอายุ
จะมีลักษณะอย่างไร
ส่วนที่สึกหรอภายในร่างกายได้น้อยและมีความอ่อนแอต่อโรค, อาการบาดเจ็บและความเจ็บป่วยมากกว่าคนที่อายุน้อยกว่า และคนคนหนึ่งจะมีอายุขัยยาวหรือสั้นเมื่อถึงวัยสูงอายุ
จะมีลักษณะอย่างไร
ขึ้นอยู่กับการควบคุมของจีน(gene)ร่วมกับ
ผลของสิ่งแวดล้อมฉะนั้นอายุจึงไม่สามารถ
กำหนดได้แน่ชัดแตกต่างกันไปตามบริบท
สหประชาชาติเห็นพ้องกันว่า 65 ปี ขึ้นไปอาจแสดงว่าเป็นยุคชรา แต่อย่างไรก็ตาม
สำหรับการศึกษาอายุของคนในทวีปแอฟริกา องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนด 55 ปีขึ้น
เป็นวัยชรา สำหรับประเทศไทย 60 ปีขึ้นไป
เป็นวัยชรา สำหรับประเทศไทย 60 ปีขึ้นไป
เช่นนี้แล้วคำจำกัดความของวัยชรา
ตามอายุขัยคงมีการเปลี่ยนแปลงไม่แน่นอน
บทความในวารสารวิทยาศาสตร์ธรรมชาติ
ได้นำเสนอว่าอายุการใช้งานของมนุษย์เฉลี่ย
สูงสุดอยู่ที 115 ปี มีขีดจำกัดสูงไม่เกิน 125 ปี
แต่ความเป็นจริงมนุษย์ที่มีอายุขัยเกิน 125 ปี
ก็มีให้พบเห็นเช่น Hunza ของปากีสถาน,
Vilcabamba ของเอกวาดอร์ และเหอเถียน
ของเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์ซินเจียง
ของเขตปกครองตนเองชนชาติอุยกูร์ซินเจียง
แต่ถึงอย่างไรการใช้อายุแบ่งวัยชราเป็น
กลุ่มย่อยสามกลุ่ม "คนเริ่มแก่" (60-69)
"คนแก่" (70-79) และ
"คนแก่มาก" (80 ปีขึ้นไป)
จะช่วยให้เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงชีวิต
ได้เพิ่มความชัดเจนมากขึ้น
กลุ่มย่อยสามกลุ่ม "คนเริ่มแก่" (60-69)
"คนแก่" (70-79) และ
"คนแก่มาก" (80 ปีขึ้นไป)
จะช่วยให้เห็นภาพการเปลี่ยนแปลงชีวิต
ได้เพิ่มความชัดเจนมากขึ้น
# สัญญาณที่บ่งบอกถึงความชรา
◆ ทฤษฎีระบบประสาทร่วมกับต่อมไร้ท่อ
บอกเราว่า เมื่ออายุมากขึ้น
การควบคุมสมดุลของร่างกายด้วยสัญญาณ
ของระบบประสาทและต่อมไร้ท่อ จะเสียไป
ประสิทธิภาพการทำงานของร่างกายจะลดลง
และตอบสนองต่อความเครียดอย่างผิดปกติ
◆ ทฤษฎีภูมิคุ้มกัน
บอกเราว่า เมื่ออายุมากขึ้น
ระบบภูมิคุ้มกันจะป้องกันแอนติเจนได้น้อยลง
สูญเสียความสามารถในการจดจำเนื้อเยื่อของ
ร่างกายทำให้ติดเชื้อและเป็นโรค
◆ วัยชรา
บอกเราว่า ภาวะเสื่อมทั้งกาย, ใจ, ความคิด
และพฤติกรรมของวัยชราแตกต่างจาก
วัยกลางคนจะเป็นสัญญาณบ่งแสดงให้เห็นว่า
บอกเราว่า ภาวะเสื่อมทั้งกาย, ใจ, ความคิด
และพฤติกรรมของวัยชราแตกต่างจาก
วัยกลางคนจะเป็นสัญญาณบ่งแสดงให้เห็นว่า
เป็นช่วงการเปลี่ยนแปลงในวัยชราและไม่ได้
เกิดขึ้นในเวลาเดียวกันสำหรับทุกคน
อายุสามารถแตกต่างกันได้ระหว่างผู้คนใน
วัยเดียวกัน
อายุสามารถแตกต่างกันได้ระหว่างผู้คนใน
วัยเดียวกัน
พื้นฐานของวัยชราที่มีผลต่อทั้งร่างกาย
และจิตใจคือ "ความเฉื่อยชาของพฤติกรรม"
จะ "ชะลอตัวลง" ซึ่งมีความสัมพันธ์ต่ออายุ
ที่เพิ่มขึ้นในแต่ละบุคคล ความเสื่อมสภาพ
ทางร่างกายและอวัยวะภายในร่างกาย
จะ "ชะลอตัวลง" ซึ่งมีความสัมพันธ์ต่ออายุ
ที่เพิ่มขึ้นในแต่ละบุคคล ความเสื่อมสภาพ
ทางร่างกายและอวัยวะภายในร่างกาย
เป็นเหตุทำให้ต้องเสียชีวิตในที่สุด
# สัญญาณทางร่างกาย
ผู้สูงวัยเป็นผู้ที่ใช้ชีวิตมานานสภาพร่างกาย
จะช่วยเหลือตนเองได้ไม่ดีเท่าที่ควร
และยังมีชีวิตดำเนินอยู่แบบว่า
"แก่ๆ เจ็บๆ ปวดๆ เมื่อยๆ"
"แก่ๆ เจ็บๆ ปวดๆ เมื่อยๆ"
◆ ผม : เป็นสิ่งแรกของร่างกายที่เปลี่ยนแปลง
ให้เห็นได้ชัด ภายนอกจากสีเดิมเป็นสีขาวแห้ง
ผมหงอกและร่วงง่าย เป็นสัญญาณบ่งบอกถึง
ภาวะเสื่อมของร่างกาย
(เนื่องมาจากการไหลเวียนของเลือดลดลง
(เนื่องมาจากการไหลเวียนของเลือดลดลง
หมายถึงเส้นผมได้อาหารไม่เพียงพอ)
◆ ผิวหนัง : สูญเสียความยืดหยุ่น, ผิวแห้ง,
หยาบ, เหี่ยวย่น, เนื้อเยื่อต่างๆจะขาดความ
ตึงตัวและ บาดแผลใช้เวลานานในการรักษา
หยาบ, เหี่ยวย่น, เนื้อเยื่อต่างๆจะขาดความ
ตึงตัวและ บาดแผลใช้เวลานานในการรักษา
(เนื่องจากการลดจำนวนน้ำในเซลล์,
ต่อมเริ่มเหี่ยว น้ำมันใต้ผิวหนังก็มีน้อยลง,
เลือดมาเลี้ยงบริเวณผิวหนังก็น้อยลง
ทำให้ผิวหนังเริ่มเหี่ยวแห้งหยาบหย่อนยาน
ปรากฏรอยย่นชัดเจน ฉะนั้นคนวัยนี้จึงรู้สึก
หนาวง่ายเพราะไขมันใต้ผิวหนังน้อยลง)
ต่อมเริ่มเหี่ยว น้ำมันใต้ผิวหนังก็มีน้อยลง,
เลือดมาเลี้ยงบริเวณผิวหนังก็น้อยลง
ทำให้ผิวหนังเริ่มเหี่ยวแห้งหยาบหย่อนยาน
ปรากฏรอยย่นชัดเจน ฉะนั้นคนวัยนี้จึงรู้สึก
หนาวง่ายเพราะไขมันใต้ผิวหนังน้อยลง)
◆ กระดูกและข้อ : กระดูกเปราะง่าย,
ข้อเข่าเสื่อมและ โรคกระดูกพรุน
(เนื่อจากการสลายตัวของแคลเซียม
ออกจากกระดูกมากขึ้น)
ออกจากกระดูกมากขึ้น)
หลังโกง และเกิดการสูญเสียของความสูง
ประมาณ 5 เซนติเมตรเมื่อถึงอายุ 80 ปี
(เนื่องจากกระดูดที่ผอมบาง, หดตัวและ
หมอนรองของกระดูกสันหลังมักจะกร่อน
และแบนลงมาก)
หมอนรองของกระดูกสันหลังมักจะกร่อน
และแบนลงมาก)
◆ เล็บ : เล็บจะหนาแข็งและเปราะ
(เนื่องจากการไหลเวียนของโลหิต
ส่วนปลายน้อยลง ทำให้การจับตัว
ของแคลเซียมบริเวณ เล็บลดลง)
(เนื่องจากการไหลเวียนของโลหิต
ส่วนปลายน้อยลง ทำให้การจับตัว
ของแคลเซียมบริเวณ เล็บลดลง)
◆ หู : สัญญาณการได้ยินลดลงเริ่มบกพร่อง
สูญเสียการสื่อสาร และอายุแก่ขึ้นไปอีก
จะพบอาการหูตึงในผู้สูงอายุซึ่งจะพบมาก
ตอนอายุ 65 ปี ขึ้นไป
สูญเสียการสื่อสาร และอายุแก่ขึ้นไปอีก
จะพบอาการหูตึงในผู้สูงอายุซึ่งจะพบมาก
ตอนอายุ 65 ปี ขึ้นไป
(เนื่องจากความเสื่อมของประสาทรับเสียง
ในหูชั้นใน ทำให้การส่งกระแส
ประสาทของเสียงไปยังอวัยวะ
รับการได้ยินซึ่งอยู่ในหูเสียไป)
ในหูชั้นใน ทำให้การส่งกระแส
ประสาทของเสียงไปยังอวัยวะ
รับการได้ยินซึ่งอยู่ในหูเสียไป)
◆ ตา สัญญาณสายตายาวจะเกิดขึ้นเป็น
อุปสรรคต่อการอ่านหนังสือขนาดเล็ก
ในที่มีแสงน้อย,ตามัว ความเร็วในการอ่าน
และความสามารถในการหาวัตถุเชื่องช้าลง,
มีวงแหวนขาวที่ขอบตาดำเกิดขึ้น
อุปสรรคต่อการอ่านหนังสือขนาดเล็ก
ในที่มีแสงน้อย,ตามัว ความเร็วในการอ่าน
และความสามารถในการหาวัตถุเชื่องช้าลง,
มีวงแหวนขาวที่ขอบตาดำเกิดขึ้น
ลักษณะตาของผู้สูงอายุจะเล็กลง, ตาลึก
และหนังตาบนจะตกหรือต่ำ
และหนังตาบนจะตกหรือต่ำ
(เนื่องจากจำนวนไขมันหลังลูกตาน้อยลง
และการยืดหยุ่นของหนังตาก็ลดลง,
มีความเสื่อมโทรมของประสาทตา,
มีความไวต่อแสงน้อยทำให้มองภาพ
ใกล้ไม่ชัด การยืดหยุ่นของเลนส์เสียไป)
และการยืดหยุ่นของหนังตาก็ลดลง,
มีความเสื่อมโทรมของประสาทตา,
มีความไวต่อแสงน้อยทำให้มองภาพ
ใกล้ไม่ชัด การยืดหยุ่นของเลนส์เสียไป)
◆ รส : สัญญาณเสื่อมของปุ่มรับรสที่ลิ้น
ไม่รับรู้ถึงรสอาหารที่ตนเองรับประทาน
จึงทำให้เกิดความไม่น่ากินในการกินอาหาร
และกลืนอาหารก็ลำบาก
(เนื่องจากต่อมน้ำลายหลั่งน้ำลายน้อยลง
ทำให้ไม่มีเมือกหล่อลื่นอาหารและ
ประสาทกล้ามเนื้อที่ควบคุมการกลืนเสื่อม)
ไม่รับรู้ถึงรสอาหารที่ตนเองรับประทาน
จึงทำให้เกิดความไม่น่ากินในการกินอาหาร
และกลืนอาหารก็ลำบาก
(เนื่องจากต่อมน้ำลายหลั่งน้ำลายน้อยลง
ทำให้ไม่มีเมือกหล่อลื่นอาหารและ
ประสาทกล้ามเนื้อที่ควบคุมการกลืนเสื่อม)
◆ กลิ่น : ความสามารถในการับกลิ่นลดลง
และทำให้ความอยากอาหารลดลงด้วย
และทำให้ความอยากอาหารลดลงด้วย
(เนื่องจากประสาทการรู้กลิ่นลดลง)
# สัญญาณทางจิตใจ
ผู้สูงวัยเป็นผู้ที่ใช้ชีวิตมานานสภาพจิตใจ
ถดถอยกระวนกระวาย, ขาดความมั่นใจ
และหงุดหงิดง่ายเพราะมีชีวิตดำเนิน
อยู่แบบว่า "แก่ๆ เจ็บๆ ปวดๆและเมื่อยๆ"
ถดถอยกระวนกระวาย, ขาดความมั่นใจ
และหงุดหงิดง่ายเพราะมีชีวิตดำเนิน
อยู่แบบว่า "แก่ๆ เจ็บๆ ปวดๆและเมื่อยๆ"
◆ การปรับตัว :
ผู้สูงอายุรู้สึกสูญเสียความสามารถในการ
ดูแลตนเองและความต้องการทางเพศลดลง
รู้สึกแย่เกี่ยวกับตนเอง ไร้ค่า ขาดความมั่นใจ
เจ้าอารมณ์, กระวนกระวาย หงุดหงิดง่าย
ดูแลตนเองและความต้องการทางเพศลดลง
รู้สึกแย่เกี่ยวกับตนเอง ไร้ค่า ขาดความมั่นใจ
เจ้าอารมณ์, กระวนกระวาย หงุดหงิดง่าย
อารมณ์หดหู่ซึ่งเกิดจากการเปรียบเทียบ
กับตัวเองที่ถดถอยลง,ผู้สูงอายุที่มี
ทัศนคติเชิงลบมากอาจทำให้เกิดภาวะ
ซึมเศร้าได้ วัยชราที่มีทัศนคติเชิงบวก
แม้จะมีความตึงเครียดก็มักจะบอกว่า
"น่าพอใจ" และ "ยอมรับ"
กับตัวเองที่ถดถอยลง,ผู้สูงอายุที่มี
ทัศนคติเชิงลบมากอาจทำให้เกิดภาวะ
ซึมเศร้าได้ วัยชราที่มีทัศนคติเชิงบวก
แม้จะมีความตึงเครียดก็มักจะบอกว่า
"น่าพอใจ" และ "ยอมรับ"
“บางก็ว่าวัยชราคือช่วงเวลาที่น่าพอใจ”
◆ ความเสี่ยง :
ผู้สูงอายุเสี่่ยงต่อการสูญเสียมากขึ้น
ผู้สูงอายุเสี่่ยงต่อการสูญเสียมากขึ้น
ทำให้เสี่ยงกว่าคนที่อายุน้อยกว่า
จึงทำให้จิตใจกระวนกระวาย
จึงทำให้จิตใจกระวนกระวาย
◆ ความกลัว
วัยชราก็เหมือนคนอ่อนแอย่อมกลัว
อาชญากรรม บางครั้งมีความกังวล
เกี่ยวกับการเงินหรือสุขภาพ
อาชญากรรม บางครั้งมีความกังวล
เกี่ยวกับการเงินหรือสุขภาพ
การเพิ่มความกลัวมีผลต่อการสูญเสีย
สุขภาพจิต ความผิดปกติทางจิต
ของวัยชราทำให้เกิดความทุกข์ทรมาน
สุขภาพจิต ความผิดปกติทางจิต
ของวัยชราทำให้เกิดความทุกข์ทรมาน
# สัญญาณทางความคิด
ผู้สูงวัยเป็นผู้ที่ใช้ชีวิตมานานภาวะทาง
ความคิดช้า, ความจำเสื่อม, ขาดความมั่นใจ
มีทัศนคติเชิงลบ
ความคิดช้า, ความจำเสื่อม, ขาดความมั่นใจ
มีทัศนคติเชิงลบ
◆ การสูญเสียความทรงจำ :
เป็นเรื่องธรรมดาในวัยชรา ภาวะสมองเสื่อม
เป็นคำทั่วไปสำหรับการสูญเสียความจำและ
ความสามารถทางปัญญาอื่น ๆ พฤติกรรม
ที่บ้าคลั่งอาจรวมถึงการเดินหลงทาง
ภาวะซึมเศร้า และโรคจิต
เป็นคำทั่วไปสำหรับการสูญเสียความจำและ
ความสามารถทางปัญญาอื่น ๆ พฤติกรรม
ที่บ้าคลั่งอาจรวมถึงการเดินหลงทาง
ภาวะซึมเศร้า และโรคจิต
◆ อาการ Essential Tremor ( ET )
เป็นอาการสั่นสะเทือนที่ไม่สามารถควบคุมได้
เป็นอาการสั่นสะเทือนที่ไม่สามารถควบคุมได้
ในส่วนบนของร่างกาย มันเป็นเรื่องปกติมาก
ในผู้สูงอายุและอาการแย่ลงตามอายุ
มีลักษณะเฉพาะ เช่น เมื่อใช้มือยกหนังสือ
ขึ้นอ่าน จะเกิดอาการมือสั่น (tremor) หรือ
ใช้มือหยิบของเข้าปาก หรือตั้งใจจะเขียน
หนังสือมือจะสั่น ไม่สามารถหยิบของเข้าปาก
ซึ่งอาการจะเลวลง
ขึ้นอ่าน จะเกิดอาการมือสั่น (tremor) หรือ
ใช้มือหยิบของเข้าปาก หรือตั้งใจจะเขียน
หนังสือมือจะสั่น ไม่สามารถหยิบของเข้าปาก
ซึ่งอาการจะเลวลง
เมื่อสมองเกิดความเครียดหรือเมื่อยล้า
◆ ขี้หลงขี้ลืม, วิตกกังวลอยู่เสมอ
เนื่องจากมีคลื่นกระแสไฟฟ้าที่เกิดขึ้น
ที่สมองเป็นคลื่นที่ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งส่งไป
ยังกล้ามเนื้อทำให้มีอาการสั่นเกิดขึ้น
ที่สมองเป็นคลื่นที่ไม่สม่ำเสมอ ซึ่งส่งไป
ยังกล้ามเนื้อทำให้มีอาการสั่นเกิดขึ้น
# สัญญาณทางพฤติกรรม :
ผู้สูงวัยเป็นผู้ที่ใช้ชีวิตมานานภาวะทาง
พฤติกรรมความเฉื่อยชาของพฤติกรรม
ขาดความคล่องตัวหลงลืมง่าย
พฤติกรรมความเฉื่อยชาของพฤติกรรม
ขาดความคล่องตัวหลงลืมง่าย
◆ ความคล่องตัว :
ร่างกายเคลื่อนไหวได้ช้าและ
ความคล่องตัวในการทำกิจกรรมต่างๆ
ที่ต้องใช้กล้ามเนื้อลดลง
ร่างกายเคลื่อนไหวได้ช้าและ
ความคล่องตัวในการทำกิจกรรมต่างๆ
ที่ต้องใช้กล้ามเนื้อลดลง
(เนื่องจากกล้ามเนื้อลาย
ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อค้ำจุนโครงสร้าง
ของร่างกาย เช่น
กล้ามเนื้อแขน, ขา เมื่อกล้ามเนื้อ
ไม่แข็งแรง ภาวะเสื่อมสมรรถภาพ
ของกล้ามเนื้อจะเกิดขึ้น)
ซึ่งเป็นกล้ามเนื้อค้ำจุนโครงสร้าง
ของร่างกาย เช่น
กล้ามเนื้อแขน, ขา เมื่อกล้ามเนื้อ
ไม่แข็งแรง ภาวะเสื่อมสมรรถภาพ
ของกล้ามเนื้อจะเกิดขึ้น)
# วัยชรามีผลต่อชีวิตอย่างไรบาง?
สภาพความเสื่อมถอยทางร่างกายและจิตใจ
ขาดความคล่องแคล่ว ว่องไว ความจำเสื่อม
ความคิดความอ่านช้าลง หูตึง ตามัว ผมหงอก
ความคิดความอ่านช้าลง หูตึง ตามัว ผมหงอก
ความเร็วในการเดินช้าลงยังเพิ่มขึ้นตามอายุ
◆ โรคเรื้อรัง
ภาวะโรคที่เกิดขึ้นบ่อยที่สุดในผู้สูงอายุ คือ
ความดันโลหิตสูง, โรคข้ออักเสบ,เบาหวาน
ความดันโลหิตสูง, โรคข้ออักเสบ,เบาหวาน
โรคหัวใจและ การไอทำให้เกิดเสมหะซึ่ง
เป็นอาการทางเดินหายใจในผู้สูงอายุ
◆ ปัญหาทางทันตกรรม :
สุขภาพช่องปากในวัยชราซึ่งจะเพิ่มโอกาส
ของการเกิดฟันผุและการติดเชื้อ
◆ ปัญหาทางทันตกรรม :
สุขภาพช่องปากในวัยชราซึ่งจะเพิ่มโอกาส
ของการเกิดฟันผุและการติดเชื้อ
◆ ระบบทางเดินอาหาร :
ความผิดปกติทางเดินอาหาร เช่นความยากลำบากในการกลืนและการดูดซับสารอาหาร
ท้องผูกและมีเลือดออก
ความผิดปกติทางเดินอาหาร เช่นความยากลำบากในการกลืนและการดูดซับสารอาหาร
ท้องผูกและมีเลือดออก
◆ หัวใจ :
จะมีประสิทธิภาพน้อยลงในวัยชราและ
ทำให้สูญเสียความแข็งแกร่ง นอกจากนี้
ทำให้สูญเสียความแข็งแกร่ง นอกจากนี้
หลอดเลือดแดงตีบไหลเวียนโลหิตได้ไม่ดี
◆ ภูมิคุ้มกัน :
การทำงานของระบบภูมิคุ้มกันบกพร่องลง
เป็นความชัดเจนของวัยชรา
◆ ปอด :
เป็นความชัดเจนของวัยชรา
◆ ปอด :
ขยายตัวได้ไม่ดีจึงรับออกซิเจนได้น้อยลง
นั้นคือเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้น้อยลง
นั้นคือเลือดไปเลี้ยงร่างกายได้น้อยลง
◆ เจ็บป่วย :
ความเจ็บปวดทำให้เกิดความทุกข์ทรมานกับ
วัยชรา การสูญเสียความคล่องตัวเป็น
เรื่องปกติของวัยชราแต่มีผลกระทบทางสังคมจิตวิทยาและทางกายภาพ อย่างยิ่ง
เรื่องปกติของวัยชราแต่มีผลกระทบทางสังคมจิตวิทยาและทางกายภาพ อย่างยิ่ง
◆ การนอนไม่หลับ :
ถือเป็นความชุกของอาการเรื้อรังในวัยชรา
และส่งผลให้เกิดอาการง่วงนอนในตอน
กลางวันเป็นความทุกข์ทรมานพอประมาณ
◆ ภาวะกลั้นปัสสาวะ :
กลางวันเป็นความทุกข์ทรมานพอประมาณ
◆ ภาวะกลั้นปัสสาวะ :
ไม่สามารถกลั้นปัสสาวะได้เหมือนเดิม
ในวัยชรา เป็นภาวะเสื่อมตามวัย
◆ เสียงพูด:
ในวัยชราเสียงอ่อนลงและสั่นช้าลง
ซึ่งส่งผลให้เสียงลมหายใจอ่อนลง
ในวัยชรา เป็นภาวะเสื่อมตามวัย
◆ เสียงพูด:
ในวัยชราเสียงอ่อนลงและสั่นช้าลง
ซึ่งส่งผลให้เสียงลมหายใจอ่อนลง
# วัยชราควรรับมืออย่างไร?
ผู้สูงอายุทุกคนจำเป็นต้องเอาใจใส่ดูแลตนเอง
ให้มากขึ้นเพื่อสุขภาพในการลดความเจ็บป่วย
ในการดำเนินชีวิตโดยมองที่ภายในของตัวเองและคนรอบๆตัวทำจิตใจของตนให้สงบสุข
ให้มากขึ้นเพื่อสุขภาพในการลดความเจ็บป่วย
ในการดำเนินชีวิตโดยมองที่ภายในของตัวเองและคนรอบๆตัวทำจิตใจของตนให้สงบสุข
◆ การปรับตัว :
ปรับตัวรอบด้านร่างกาย จิตใจ ความคิด
อารมณ์ และสภาพความเป็นอยู่ของตนเอง
เริ่มจากการปรับใจของตนเองด้วยการเปิดใจยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
ทั้งของตนเองและสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ
เรื่องในอดีตพูดแล้วไม่ดีต่อสุขภาพจิต
ก็ไม่ต้องริ้อฟื้นให้รู้ว่า
ความเสือมเป็นกฏเกณฑ์ของธรรมชาติ
นอนให้พอเมื่อรู้สึกง่วงก็ต้องนอน
จะกินจะนั่งค่อยๆคิดค่อยๆทำ
ใช้ชีวิตในการดำรงอยู่ให้ช้าลงนั้นเอง
อารมณ์ และสภาพความเป็นอยู่ของตนเอง
เริ่มจากการปรับใจของตนเองด้วยการเปิดใจยอมรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น
ทั้งของตนเองและสิ่งแวดล้อมใหม่ๆ
เรื่องในอดีตพูดแล้วไม่ดีต่อสุขภาพจิต
ก็ไม่ต้องริ้อฟื้นให้รู้ว่า
ความเสือมเป็นกฏเกณฑ์ของธรรมชาติ
นอนให้พอเมื่อรู้สึกง่วงก็ต้องนอน
จะกินจะนั่งค่อยๆคิดค่อยๆทำ
ใช้ชีวิตในการดำรงอยู่ให้ช้าลงนั้นเอง
◆ การดูแลสุขภาพ :
ผู้สูงอายุจำเป็นต้องไปตรวจร่างกายประจำปี
อย่างสม่ำเสมอ และรีบไปพบแพทย์แต่เนิ่นๆ
เมื่อเริ่มมีอาการที่บ่งชี้ว่าเจ็บป่วย ระมัดระวัง
อย่างสม่ำเสมอ และรีบไปพบแพทย์แต่เนิ่นๆ
เมื่อเริ่มมีอาการที่บ่งชี้ว่าเจ็บป่วย ระมัดระวัง
และป้องกันไม่ให้ตนเองเจ็บป่วย หรือเกิด
อุบัติเหตุ หมั่นคอยดูแลสุขอนามัยของตนเอง
ออกกำลังกายทุกวัน เลือกวิธีออกกำลังกาย
อุบัติเหตุ หมั่นคอยดูแลสุขอนามัยของตนเอง
ออกกำลังกายทุกวัน เลือกวิธีออกกำลังกาย
ที่เหมาะสมกับวัยและสภาพร่างกายของตน
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ให้คุณค่าทาง
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ให้คุณค่าทาง
อาหารครบ 5 หมู่เหมาะสมกับวัย เป็นอาหาร
ที่ย่อยง่าย และมีปริมาณเพียงพอในแต่ละวัน
ดื่มน้ำให้เพียงพอกับร่างกาย
ดื่มน้ำให้เพียงพอกับร่างกาย
อย่างน้อยวันละ 8 แก้ว ดูแลระบบขับถ่ายของตนเองให้เป็นปกติ นอนให้เพียงพออย่างน้อย
วันละ 8 ชั่วโมง และอยู่ในที่ๆ มีอากาศถ่ายเท
ได้ดี และที่สำคัญต้องดูแลสุขภาพจิตของตน
โดยทำจิตใจให้เบิกบานอยู่เสมอ ไม่เครียด
ไม่หงุดหงิด ไม่ฉุนเฉียว ไม่ท้อแท้
วันละ 8 ชั่วโมง และอยู่ในที่ๆ มีอากาศถ่ายเท
ได้ดี และที่สำคัญต้องดูแลสุขภาพจิตของตน
โดยทำจิตใจให้เบิกบานอยู่เสมอ ไม่เครียด
ไม่หงุดหงิด ไม่ฉุนเฉียว ไม่ท้อแท้
◆ การใช้เวลาว่าง :
การทำกิจกรรมต่างๆ ที่ชื่นชอบ
ทำงานอดิเรกต่างๆ ที่เหมาะสมกับวัย เช่น
ทำงานอดิเรกต่างๆ ที่เหมาะสมกับวัย เช่น
การปลูกต้นไม้ การเล่นดนตรี การฟังเพลง
สวดมนต์ การเขียนหนังสือ การอ่านหนังสือ
เพื่อคลายเหงา เกิดความเพลิดเพลิน
ผ่อนคลายทั้งร่างกาย, ความคิดและจิตใจ
สวดมนต์ การเขียนหนังสือ การอ่านหนังสือ
เพื่อคลายเหงา เกิดความเพลิดเพลิน
ผ่อนคลายทั้งร่างกาย, ความคิดและจิตใจ
วัยชราได้มาเยือน
ความอ่อนแอได้มาถึง
กำลังก็ถดถอย
หูก็หนวก
ดวงตาก็พร่ามัว
หัวใจสึกหรอทุกขณะจิต
ความอ่อนแอได้มาถึง
กำลังก็ถดถอย
หูก็หนวก
ดวงตาก็พร่ามัว
หัวใจสึกหรอทุกขณะจิต
เพราะความเหนื่อยล้าของหัวใจ
ในที่สุดปากก็เงียบ
ไม่สามารถพูดได้แล้ว
ในที่สุดปากก็เงียบ
ไม่สามารถพูดได้แล้ว
จำไม่ได้เมื่อวานนี้ผ่านไปแล้ว
กระดูกทนทุกข์ทรมานจากวัยชรา
กระดูกทนทุกข์ทรมานจากวัยชรา
🙏 สุดท้าย :
สิ่งที่ยากที่สุดในชีวิต
ไม่ใช่ว่าคุณหาเงินได้เท่าไร
แต่คุณจะรักษาความคิด
จิตใจอันสงบสุข
และดำเนินชีวิตที่เหลือ
ในวิถีทางอันเรียบง่าย
และไร้ความวิตกกังวล
ได้อย่างไรต่างหาก
ไม่ใช่ว่าคุณหาเงินได้เท่าไร
แต่คุณจะรักษาความคิด
จิตใจอันสงบสุข
และดำเนินชีวิตที่เหลือ
ในวิถีทางอันเรียบง่าย
และไร้ความวิตกกังวล
ได้อย่างไรต่างหาก
สังขารเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยงแท้แน่นอน
มีเกิด มีแก่ มีเจ็บ และก็มีตาย
สรรพสิ่งล้วนเป็นทุกข์
สรรพสิ่งล้วนเปลี่ยนไปตามกาล
สรรพสิ่งล้วนเป็นทุกข์
สรรพสิ่งล้วนเปลี่ยนไปตามกาล