Skip to main content

Posts

Showing posts from 2020

World Economic Forum 2020..

 บทสรุป จาก World Economic Forum 2020.. (ภาพแรก)​.. ในอีก 5 ปีข้างหน้า 2025.. คนทำงานทั่วโลก ประมาณครึ่งหนึ่งจะต้องถูก Reskill เนื่องจาก core skill ที่ต้องใช้ในการทำงานเปลี่ยนไปมากกว่า 40% ของ skill เดิม..  แปลว่า คนทำงานทุกคนจากนี้ไปต้องเรียนรู้และพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว.. ใครเรียนรู้ไม่ได้ ปรับตัวไม่ทันการเปลี่ยนแปลง.. มีสิทธิตกงาน หรือไม่ก้าวหน้า .. (ภาพ 2) . อีก 5 ปีข้างหน้า สัดส่วนของ Automation ในการทำงานจะเพิ่มขึ้นอีกจากตอนนี้ อยู่ราว 33% ของงานกลายเป็น 47% ของงาน .. แปลว่า งานเดิมที่เคยใช้คนทำจะหายไป และทดแทนด้วย Automation อย่าคิดว่าเป็นส่วนของ robot ในการผลิต.. แต่จะเป็น เทคโนโลยี​เข้ามาทำแทนคน ลดขั้นตอน ลดเวลา ลดการตรวจสอบ ในการทำงาน .. (ภาพ 3) .. ดังนั้น คนทำงาน จะต้องทำงานในหน้าที่อื่น ใช้ skill ใหม่ ซึ่งต้องเรียนรู้ .. 10 skills ที่คนทำงานจำเป็นต้องมีเพิ่มมากขึ้นใน อีก 5 ปีข้างหน้า  1. การคิดวิเคราะห์​ และให้เกิดนวัตกรรม  2. การวางกลยุทธ์​ และสร้างการเรียนรู้​  3. การแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน  4. การคิด และวิเคราะห์​ปัญหาเชิงลึก  5....

เศรษฐกิจไทยปี​2021

🌹​ เศรษฐกิจไทยปีหน้าฟื้นตัวยาก​ เสี่ยงสะดุดจาก 3 ปัจจัย​ โครงสร้างของเศรษฐกิจไทยที่พึ่งพาการท่องเที่ยวเป็นสัดส่วนมากถึง 12% ของ GDP​ เพราะรายรับจากการท่องเที่ยวที่ลดลงจะยังคงเป็นตัวฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจซึ่งจะทำให้เศรษฐกิจไทยอาจต้องใช้เวลานานถึงประมาณ 3-4 ปีกว่าที่จะกลับเข้าสู่ระดับปกติ ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด คือ ธุรกิจที่พักอาศัยและอาหาร (-50.2%), การเดินทาง (-38.9%), การผลิต (-14.4%) และ การค้าปลีก (-9.8%)      ในขณะที่ในภาคการผลิตที่มีการพึ่งพาการส่งออกสูงจะได้รับผลกระทบจากการส่งออกที่ชะลอตัวลงเช่นกัน โดยผลกระทบที่ใหญ่ที่สุดเกิดขึ้นในธุรกิจการเดินทางและการขนส่ง การค้าปลีก และที่พักและอาหาร ผลกระทบจากการไม่มีนักท่องเที่ยวทำให้หลายพื้นที่ยังไม่สามารถฟื้นตัวได้โดยเฉพาะพื้นที่ที่มีการพึ่งพารายได้จากการท่องเที่ยวในระดับสูง โดยปัจจุบันโรงแรมกว่า 40% ของโรงแรมทั้งหมดยังคงปิดบริการชั่วคราวอยู่ 3 ความเสี่ยงที่ยังต้องจับตามอง 1. ฐานะการเงินของธุรกิจได้รับผลกระทบรุนแรง ธุรกิจขนาดกลางและเล็กมีความเสี่ยงในการเลิกกิจการ 2. ผลกระทบต่อการว่างงานอาจรุนแรงขึ้นอีกหากนับรวม...

Top 10 อันดับของจีน

 🌹 ​Top 10 บริษัทเอกชน    แถวหน้าของจีน ประจำปี 2020 ตอกย้ำความยิ่งใหญ่สำหรับ “Huawei Investment & Holding Co Ltd” ที่รั้งตำแหน่งบริษัทแถวหน้าของจีนไว้ได้อีกครั้ง จากการจัดอันดับ China Top 500 Private Enterprises ในปีนี้ โดยมีรายได้จากการประกอบการอยู่ที่ 8.59 แสนล้านหยวน (ราว 3.9 ล้านล้านบาท) . จากรายงานที่เผยแพร่โดยสมาพันธ์อุตสาหกรรมและการพาณิชย์แห่งประเทศจีน ระบุว่า บริษัทที่จะได้จัดอยู่ในรายชื่อนี้ต้องมีรายได้จากการประกอบการมากกว่า 2 หมื่นล้านหยวน (ราว 9.2 หมื่นล้านบาท)  . บริษัททั้ง 500 อันดับในปีนี้ มีรายได้จากการประกอบการ, สินทรัพย์สุทธิ และกำไรสุทธิหลังหักภาษีรวมกันอยู่ที่ 30.17 ล้านล้านหยวน (ราว 139 ล้านล้านบาท), 36.96 ล้านล้านหยวน (ราว 170 ล้านล้านบาท) และ 1.39 ล้านล้านหยวน (ราว 6.4 ล้านล้านบาท) ตามลำดับ และด้านล่างนี้คือ 10 อันดับบริษัทเอกชนแถวหน้าของจีนจากทั้งหมด 500 อันดับ . 10. Geely Holding Group รายได้: 3.30 แสนล้านหยวน (ราว 1.5 ล้านล้านบาท) ธุรกิจ: ยานยนต์ 9. China Vanke Co Ltd รายได้: 3.68 แสนล้านหยวน (ราว 1.69 ล้านล้านบาท) ธุรกิจ: อสังหาริมทรัพ...

COVID-19​

Date April 1st 2020 - COVID-19 COVID-19​ กำลังบังคับให้รัฐบาล บริษัท และสังคม เพิ่มศักยภาพของตนเองเพื่อรับมือกับช่วงเวลาของการโดดเดี่ยวทางเศรษฐกิจ (economic self-isolation)  จะสร้างโลกที่แคบลง ยากจนขึ้น และเปิดกว้างน้อยลง ซึ่งมันอาจจะไม่ใช่แบบนี้ก็ได้ แต่เมื่อเราเจอกับไวรัสที่แพร่ได้รวดเร็วและทำให้ถึงตายการวางแผนที่ไม่เพียงพอ และผู้นำที่ไม่มีประสิทธิภาพ รวมๆ กันแล้ว ก็อาจจะเป็นการพามนุษยชาติเดินไปบนเส้นทางสายใหม่ที่น่าวิตกกังวล อังค์ถัด (UNCTAD) ประเมินว่าการลงทุนระหว่างประเทศ (FDI) ปีนี้จะหดหายไปร้อยละ 40 นักลงทุนทั่วโลกชะลอการลงทุน จากเดิมที่ประเมินว่าปีนี้จะโตร้อยละ 5 และชี้ว่าห่วงโซ่อุปทานกำลังเสียหายหนัก กระทบเศรษฐกิจทุกด้าน สัญญาน้ำมันดิบล่วงหน้าเวสต์เท็กซัส ส่งมอบเดือนพ.ค.​ ตลาดวันพฤหัสบดี​ ที่​ 26​ มี.ค. ปิดที่ราคา 22.60 ดอลลาร์/บาร์เรล​ รัฐบาลสหรัฐได้ ยุติแผนซื้อน้ำมันกักเก็บในคลังสำรอง เนื่องจากสภาคองเกรสไม่อนุมัติงบประมาณ (เรียกว่าของถูกแต่ไม่มีเงินซื้อ)​ สายการบินหยุดเที่ยวบินการทั่วโลก, สายการผลิตขาดช่วงชิ้นส่วนจากต่างประเทศ, น้ำมันจะเรียกว่าลดราคาการสุดๆจนกลุ่ม...
By  Richard Whitt ห่วงหน้า 。。 พะวงหลัง Can Economy Weather Covid-19 Storm ? • ผลกระทบจากการแพร่ระบาดเชื้อไวรัส COVID-19 รุนแรงเกินกว่าความคาดหมายแล้ว 'โดยตลาดหุ้นทั่วโลกกำลังพังพินาศ' ขณะที่เศรษฐกิจโลกใกล้จะตายซาก • ตลาดหุ้นไทยต้องสังเวยวิกฤตไวรัส โดยนักลงทุนเกิดความตื่นตระหนก เทขายหุ้นหนีตาย จนดัชนีหุ้นทรุดฮวบลง 'หลุดจากระดับ 1,400 จุด ต่ำสุดในรอบ 4 ปี' และไม่อาจประเมินได้ว่า 'จุดต่ำสุดรอบนี้อยู่ที่ใด' • ส่วนเศรษฐกิจเกิดภาวะถดถอยอย่างรุนแรง จนต้องปรับประมาณการเป้าหมายอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจกันวุ่นวาย โดยเฉพาะปี พ.ศ. 2563 ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) อาจโตเพียง 1.5% หรือต่ำกว่า • แมลงเม่าในตลาดหุ้นตายกันเป็นเบือ ระยะในช่วงเวลาเพียงประมาณ 1 เดือน ดัชนีหุ้นรูดลงกว่า 200 จุด จากระดับ 1,600 จุด ลดลงเหลือต่ำกว่า 1,400 จุด กระดานหุ้นกลายเป็นสีแดง • หุ้นบริษัทจดทะเบียนขนาดใหญ่หรือขนาดเล็ก จับมือกันดิ่งเหว...ตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงขาลงมากว่า 2 ปีแล้ว เช่นเดียวกับเศรษฐกิจที่ซบเซาต่อเนื่องยาวนานหลายปี...เมื่อถูกซ้ำเติมด้วยวิกฤตไวรัส อาจจุดชนวนวิกฤตเศรษฐกิจ...